หัดใช้ OpenOffice.org
(Nov 22, 2006)
วันนี้หัดใช้ OpenOffice นิดหน่อย โดยเฉพาะเรื่องของสมการ
พบว่า
1. การใส่สมการมีลักษณะคล้าย LaTex แต่มีข้อดีตรงที่มันมีการแสดงผลรูปสมการออกมาให้เห็นทันที
2. เวลาที่เราเลื่อนเคอร์เซอร์ไปที่สูตรแบบ LaTex OpenOffice ก็จะตีกรอบให้ด้วยว่ามันตรงกับตรงไหนของผลลัพธ์
3. จากข้อสอง ในทางกลับกัน ถ้าเราไปคลิกที่ผลลัพธ์ มันก็จะเลื่อนเคอร์เซอร์ตรงสูตรไปให้เราด้วย ซึ่งทำให้การทำงานค่อนข้างจะสะดวกขึ้นมากเมื่อเทียบกับ WinEdt
4. การทำฟอนต์ตัวหนาต่างกับ LaTex พอสมควร ใน OpenOffice เราจะใช้ bold{A} โดยไม่มี \ นำหน้า แต่ใน LaTex เราใช้ \mathbf{A} ในความเห็นของเราตรงนี้ OpenOffice ทำได้ดีกว่า
5. จาก OpenOffice Wiki (http://wiki.services.openoffice.org/wiki/FAQ:Formula) เราพบว่ายังไม่มีระบบการทำ alignment โดยตรง แต่สามาระใช้ matrix หรือ phantom เข้ามาแก้ไขได้อย่างสวยงาม (เราชอบวิธี matrix เพราะเป็นธรรมชาติกับเราดี) ดังนี้ [เอามาจากหน้า FAQ]
แต่เราก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมเวลาจะใช้เครื่องหมายเท่ากับเราต้องใช้ {}={} แทนที่จะเป็น = เฉยๆ เรื่องนี้คงต้องศึกษากันต่อไป
6. เราได้เรียนรู้การใช้คำสั่ง stack ที่เอาไว้ซ้อนตัวอักษร พร้อมกับทำให้รู้ว่ามันเป็นวิธีที่จะทำให้ใช้วงเล็บปีกกาใหญ่ได้อย่างแยบยล ดังนี้ [เอามาจากฟอรัมที่ openoffice.org]
left none
stack{{bold{y[0] = a_0 x[0]}} #
{bold{y[1] = a_1 x[1]+ a_1 x[0] + b_1 y[0]}} #
{bold{y[2] = a_0 x[2]+ a_1 x[1] + a_2 x[0] + b_1 y[1] + b_2 y[0]}}
} right rbrace
7. ตอนที่เราจะทำให้เกิดการนับสมการใน Writer เราก็ทำได้ด้วยการพิมพ์ fn จากนั้น higlight มันแล้วกด F3 เพื่อให้เกิดการแปลงเป็น autotext สมการก็จะนับไปเรื่อยๆ ถ้าต้องการให้นับตามบท ก็ให้ดับเบิลคลิกไปที่ตัวเลขนั้นแล้วก็เปลี่ยน Level ไปเป็นค่าที่ควรจะเป็น (ยังไม่แน่ใจว่าทำงานได้จริงรึเปล่า)
8. Comment ในสมการใส่ได้โดยใช้ %%
9. ถ้าต้องการใส่ข้อความลงในสมการ หรือ อักขระที่เป็นคำสงวนก็ให้ใช้ " " มาครอบส่วนนั้นๆไว้ เช่น ใช้ "#" เพื่อแสดงเครื่องหมาย # ในสมการ
10. อักขระพิเศษ เช่น lambda ให้ใช้ %lambda
11. คู่มือ math แบบด่วนจี๋ของ OO.org = http://documentation.openoffice.org/manuals/oooauthors2/0111GS-GettingStartedWithMath.pdf
12. ถ้าจะใช้เศษส่วน (fraction) ใช้ a over b
(Nov 22, 2006)
วันนี้หัดใช้ OpenOffice นิดหน่อย โดยเฉพาะเรื่องของสมการ
พบว่า
1. การใส่สมการมีลักษณะคล้าย LaTex แต่มีข้อดีตรงที่มันมีการแสดงผลรูปสมการออกมาให้เห็นทันที
2. เวลาที่เราเลื่อนเคอร์เซอร์ไปที่สูตรแบบ LaTex OpenOffice ก็จะตีกรอบให้ด้วยว่ามันตรงกับตรงไหนของผลลัพธ์
3. จากข้อสอง ในทางกลับกัน ถ้าเราไปคลิกที่ผลลัพธ์ มันก็จะเลื่อนเคอร์เซอร์ตรงสูตรไปให้เราด้วย ซึ่งทำให้การทำงานค่อนข้างจะสะดวกขึ้นมากเมื่อเทียบกับ WinEdt
4. การทำฟอนต์ตัวหนาต่างกับ LaTex พอสมควร ใน OpenOffice เราจะใช้ bold{A} โดยไม่มี \ นำหน้า แต่ใน LaTex เราใช้ \mathbf{A} ในความเห็นของเราตรงนี้ OpenOffice ทำได้ดีกว่า
5. จาก OpenOffice Wiki (http://wiki.services.openoffice.org/wiki/FAQ:Formula) เราพบว่ายังไม่มีระบบการทำ alignment โดยตรง แต่สามาระใช้ matrix หรือ phantom เข้ามาแก้ไขได้อย่างสวยงาม (เราชอบวิธี matrix เพราะเป็นธรรมชาติกับเราดี) ดังนี้ [เอามาจากหน้า FAQ]
matrix{
alignr x+y # {}={} # alignl 2 ##
alignr x # {}={} # alignl 2-y
}
แต่เราก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมเวลาจะใช้เครื่องหมายเท่ากับเราต้องใช้ {}={} แทนที่จะเป็น = เฉยๆ เรื่องนี้คงต้องศึกษากันต่อไป
6. เราได้เรียนรู้การใช้คำสั่ง stack ที่เอาไว้ซ้อนตัวอักษร พร้อมกับทำให้รู้ว่ามันเป็นวิธีที่จะทำให้ใช้วงเล็บปีกกาใหญ่ได้อย่างแยบยล ดังนี้ [เอามาจากฟอรัมที่ openoffice.org]
left none
stack{{bold{y[0] = a_0 x[0]}} #
{bold{y[1] = a_1 x[1]+ a_1 x[0] + b_1 y[0]}} #
{bold{y[2] = a_0 x[2]+ a_1 x[1] + a_2 x[0] + b_1 y[1] + b_2 y[0]}}
} right rbrace
7. ตอนที่เราจะทำให้เกิดการนับสมการใน Writer เราก็ทำได้ด้วยการพิมพ์ fn จากนั้น higlight มันแล้วกด F3 เพื่อให้เกิดการแปลงเป็น autotext สมการก็จะนับไปเรื่อยๆ ถ้าต้องการให้นับตามบท ก็ให้ดับเบิลคลิกไปที่ตัวเลขนั้นแล้วก็เปลี่ยน Level ไปเป็นค่าที่ควรจะเป็น (ยังไม่แน่ใจว่าทำงานได้จริงรึเปล่า)
8. Comment ในสมการใส่ได้โดยใช้ %%
9. ถ้าต้องการใส่ข้อความลงในสมการ หรือ อักขระที่เป็นคำสงวนก็ให้ใช้ " " มาครอบส่วนนั้นๆไว้ เช่น ใช้ "#" เพื่อแสดงเครื่องหมาย # ในสมการ
10. อักขระพิเศษ เช่น lambda ให้ใช้ %lambda
11. คู่มือ math แบบด่วนจี๋ของ OO.org = http://documentation.openoffice.org/manuals/oooauthors2/0111GS-GettingStartedWithMath.pdf
12. ถ้าจะใช้เศษส่วน (fraction) ใช้ a over b